เรียน couse: การเริ่มต้นธุรกิจใหม่ (New Venture Creation)
“หลักสูตรการเป็นผู้ประกอบการและการพัฒนาธุรกิจใหม่ Entrepreneurship and New Business Development” Module 1: การเริ่มต้นธุรกิจ (New Venture Creation) สอนโดย ดร.ตรียุทธ พรหมศิริ ประธานสาขาผู้ประกอบการและนวัตกรรม วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล
เเชร์กิจกรรมนี้ :- Entrepreneurship process (กระบวนการเป็นผู้ประกอบการ) คือ การเริ่มต้นไอเดียสร้างธุรกิจ - คนที่จะเป็นผู้ประกอบการในประเทศนี้มีน้อยกว่า 7% - ผู้ประกอบการ 1 คนสามารถสร้างอะไรได้บ้าง 1. สร้างความมั่งคั่ง (wealth) ให้กับผู้อื่นโดยการจ้างงาน / สร้างรายได้ -ธุรกิจ Size S จ้างประมาณ7คน -ธุรกิจ SME จ้างประมาณ 25-30คน -ธุรกิจ Size M จ้างประมาณ 50คน -ธุรกิจระดับUnicorn จ้างคนได้ทั้งอุตสาหกรรม Ex.รถEv / Google 2. สร้างคุณค่า ทำให้ชีวิตคนดีขึ้น ยก Standard of living สร้าง product /service ที่ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น และสามรถทำให้ราคาต้นทุนลดลง 3. สร้างGDPในประเทศ ด้วยการสร้างไอเดียเจ๋งๆ เกิดการบริโภคในประเทศ และมีไอเดียในการผลิต product เกิดการ Export สินค้า -NEW VENTURE CREATION PROCESS = กระบวนการสร้างกิจการใหม่ เริ่มจากผู้ประกอบการต้องมีmindsetว่าสามารถทำได้และมีกระบวนการสร้างกิจการใหม่ 3 STEP คือ STEP 1 ตั้งคำถามว่าทำอะไรดี/STEP 2 ตั้งคำถามว่าทำดีมั้ย/STEP 3 ตั้งคำถามว่าทำยังไง +ทำอะไรดี? เริ่มจากสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องมี 1. ความคิดสร้างสรรค์ (Idea),2. ไม่ยึดติด,3. ซื่อสัตย์ต่อความรู้สึกตัวเอง,4. สายตาต้องเปิดกว้าง ผู้ประกอบการต้องนำ3สิ่งนี้มาประกอบเข้าด้วยกัน คือ 1. ไอเดีย-สิ่งที่อยากจะทำ/นำมาเป็นธุรกิจ 2. ตัวเอง - ต้องเสียกะเวลา/น่าความรู้ความถนัดที่ตัวเองมีมาประกอบ 3. market opportunity - ต้องรู้ว่ามีตลาด/กลุ่มถูกคำรองรับมั้ย ทั้งนี้ต้องสรุป venture concept (แนวคิดของกิจการ) ว่าเหมือนหรือแตกต่างกับที่อื่นมั้ย +ทำดีมั้ย? ผู้ประกอบการต้องมีCritical thinking ตอบคำถามในใจให้ได้โดยมีตัวช่วยในการตัดสินใจ ว่าจะทำดีมั้ยคือ 1. Test of potential เพื่อดูว่าแนวคิดเรามีคนตอบรับมั้ย เริ่มจากทดลองทำอะไรเล็ก ๆ ยังไม่ต้องเริ่มลงทุนจริง 2. Feasibility analysis วิเคราะห์ทางการเงิน เพื่อดูว่าตอบโจทย์ทางด้านการเงินมั้ย โดยเงิน = resource ในการเริ่มต้นกิจการ แต่ตัวเลขจะช่วยชี้วัดว่าน่าทำหรือน่าลงทุนมั้ย ซึ่งทุก กิจการจะต้องมีความสี่ยง เป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่เสี่ยงเลยแต่ได้กำไร 3. Test of feasibility ซึ่งประกอบไปด้วย Initial investment (เงินทุนตั้งต้น) และPayback period (ระยะเวลาการคืนทุน) ซึ่ง NPV และ IRR จะเป็น 2 สิ่งที่จะช่วยบอกว่า กิจการนี้น่าลงทุนมั้ย +ทำยังไง? เราสามารถวางแผนก่อนเริ่มธุรกิจได้โดยใช้เครื่องมือวางแผนทำธุรกิจ (Business plan) ซึ่งมีไว้เพื่อ 1. ใช้สื่อสารกับคนภายนอก - ธนาคาร (เพื่อกู้เงิน) - การระดมทุน 2. ใช้สื่อสารกับคนภายใน - ผู้ถือหุ้น - พนักงาน 3. สื่อสารกับตัวเจ้าของธุรกิจเอง การเขียน Business plan จะมีหลายรูปแบบ แต่จะขอแนะนำแบบที่มี 7 บท ดังนี้ 1. Executive summary ใน 1 หน้า - ผลิตภัณฑ์อะไร- ขายใคร- ลงทุนเท่าไหร่ 2. Business description คำอธิบายธุรกิจของเราที่จะสรุปว่าบริษัทอะไร ทำอะไร เทียบเท่าหนังสือบริคณห์สนธิ 3. Product/service: สรุปว่าขายอะไร - 4P- SWOT สรุปว่าขายอะไรแตกต่างจากธุรกิจอื่นอย่างไร ทำไมคนอื่นอยากได้ Value proposition คืออะไร เช่น ถูกและดีหรือมีคุณค่า (เก็บแล้วราคาขึ้น) 4. Marketing - ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ - คู่แข่งคือใคร - Promote ยังไง เช่น omni channel online หรือ offline 5. Operation plan - ใครต้องทำอะไรบ้างในแต่ละวัน- ใครรับผิดชอบส่วนไหน- แผนการรับความเสี่ยงในการจัดการ 6. Management team - ใครคือผู้ถือหุ้น ถือหุ้นกี่ %- ผู้ถือหุ้นต้องทำอะไรบ้าง- การแบ่งหน้าที่ตาม Organization chart 7.การเงิน - เงินลงทุนตั้งต้น - งบกำไรขาดทุน (Income statement): ต้องforecastว่าธุรกิจจะคืนทุนเมื่อไห - อัตราส่วนทางการเงิน: Cashflow กระแสเงินสดว่าหมุนดีมั้ย - งบการเงิน/อัตราก่อนการเงินจะบอกว่ากิจการน่าลงทุนมั้ย - ความคุ้มหรือไม่คุ้ม เราจะรู้ได้เมื่อเทียบกับกิจการอื่นที่ใกล้เคียงกัน หรือ ถามตัวเอง ว่าพอใจมั้ย